0
0.00
5 เที่ยวฮิต บุญรักษาพาเที่ยวประจำปี 2564
5 เที่ยวฮิต บุญรักษาพาเที่ยวประจำปี 2564

ใกล้สิ้นปีแบบนี้ บุญรักษาจึงได้รวบรวมวัดน่าเที่ยวยอดนิยมประจำปี 2564 มาฝากเพื่อน ๆ ค่ะ จะมีวัดอะไรน่าสนใจบ้างนั้น.. ไปชมกันเลยค่ะ!

อันดับที่ 1 วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี 
5 เที่ยวฮิต บุญรักษาพาเที่ยวประจำปี 2564

วัดท่าซุง(จันทาราม) เป็นวัดเก่าแก่ที่สร้างขึ้นในสมัยกรุงศรีอยุธยา ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า"วัดท่าซุง" เพราะในอดีตบริเวณนี้เป็นเส้นทางสัญจรทางน้ำที่สำคัญ และมีการล่องซุงกันเป็นจำนวนมาก รวมถึงแพซุงต่าง ๆ ก็มักจะมีการหยุดแวะพักที่บริเวณหน้าวัดนี่เอง ทำให้ที่นี่มีชื่อเรียกกันอย่างคุ้นปากว่า "วัดท่าซุง" ค่ะ ในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ ผู้ที่บูรณะวัดคือ หลวงพ่อใหญ่ และวัดเริ่มมาพัฒนา และเป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อพระราชพรหมยาน หรือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ได้สร้างอาคารต่างๆ ที่สำคัญขึ้น ภายในวัดที่ล้วนแต่วิจิตรงดงามตระการตา ทำให้ผู้คนจากทั่วทุกสารทิศต่างมาที่นี่เพื่อชื่นชมความงามและกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เพื่อความเป็นสิริมงคล อีกทั้งยังมีบรรดาลูกศิษย์มากมายที่ศรัทธาในหลวงพ่อฤาษีลิงดำ ทำให้วัดท่าซุงมีชื่อเสียงโด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ค่ะ ก่อนเข้าไปในตัววิหาร ทางวัดจะมีการแจกบัตรคิวให้กับทุกคน และให้ล้างมือก่อนเข้าไปด้านในค่ะ เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นการท่องเที่ยวแบบ New Normal ค่ะ (วิหารแก้ว เปิดให้เข้าชม 2 รอบต่อวันคือ 09.00-11.30 น. และ 13.00-16.00 น.) เพื่อน ๆ สามารถใช้เวลาในวันหยุดเสาร์-อาทิตย์เดินทางมาเที่ยวที่วัดท่าซุงกันได้นะคะ ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ 3 ชั่วโมงเท่านั้นค่ะ อันดับที่ 2 วัดขุนอินทประมูล จ.อ่างทอง 5 เที่ยวฮิต บุญรักษาพาเที่ยวประจำปี 2564

วัดขุนอินทประมูลเป็นวัดโบราณ สร้างขึ้นในสมัยกรุงสุโขทัย พิจารณาจากซากอิฐแนวเขตเดิม คะเนว่าเป็นวัดขนาดใหญ่ เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่ใหญ่และยาวที่สุดในประเทศไทย เดิมประดิษฐานอยู่ในวิหารแต่ถูกไฟไหม้ปรักหักพังไปเหลือแต่องค์พระตากแดดตากฝนอยู่กลางแจ้งมานานนับร้อยๆ ป

องค์พระพุทธรูปมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับพระนอนจักรสีห์ จ.สิงห์บุรี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นในสมัยเดียวกัน องค์พระนอนมีพุทธลักษณะที่งดงาม พระพักตร์ยิ้มละไม สงบเยือกเย็น น่าเลื่อมใสศรัทธายิ่งนัก พระมหากษัตริย์ไทยหลายพระองค์ได้เคยเสด็จมาสักการะบูช า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลปัจจุบัน เสด็จฯ มาถวายผ้าพระกฐินต้นในปี พ.ศ.2516 และเสด็จมานมัสการอีกครั้งในปีพ.ศ. 2518 พุทธศาสนิกชนทั่วประเทศต่างนิยมมานมัสการเป็นเนืองนิจ นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดขุนอินทประมูลยังมีซากโบราณสถานวิหารหลวงพ่อขาว ซึ่งเหลือเพียงฐาน ผนังบางส่วนและองค์พระพุทธรูป ในศาลาอเนกประสงค์มีศาลรูปปั้นขุนอินทประมูลและโครงกระดูกมนุษย์ ขุดพบในเขตวิหารพระพุทธไสยาสน์ ลักษณะนอนคว่ำหน้า มือและเท้ามัดไพล่อยู่ด้านหลัง เชื่อกันว่าเป็นโครงกระดูกขุนอินทประมูล แต่บ้างก็ว่าไม่ใช่ ซึ่งตามประวัติเล่ากันว่า ท่านเป็นนายอากรผู้สร้างพระพุทธไสยาสน์ โดยยักยอกเอาเงินของหลวงมาสร้างเพื่อเป็นปูชนียสถาน ครั้นพระมหากษัตริย์ทรงทราบ รับสั่งถามว่าเอาเงินที่ไหนมาสร้าง ขุนอินทประมูลไม่ยอมบอกความจริงเพราะกลัวส่วนกุศลจะตกไปถึงองค์พระมหากษัตริย์จึงถูกเฆี่ยนจนตาย วัดนี้จึงได้ชื่อว่า "วัดขุนอินทประมูล” ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาส ก็ไปเที่ยวชมและกราบไหว้ขอพรกันได้นะคะ เพราะใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯประมาณ2ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้นค่ะ บุญรักษาเชื่อว่าเพื่อน ๆ น่าจะมีความสุขและประทับใจกับวัดแห่งนี้แน่นอนค่ะ

ที่อยู่ : วัดขุนอินทประมูล หมู่3 ตำบลอินทประมูล อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง เปิดให้เข้าชม 8.00น. - 17.00น.


อันดับที่ 3 วัดนาคปรก กรุงเทพมหานคร
5 เที่ยวฮิต บุญรักษาพาเที่ยวประจำปี 2564

วัดนาคปรก เป็นวัดราษฎร์ สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย ตั้งอยู่บนถนนเทอดไท แขวงปากคลองภาษีเจริญ เขตภาษีเจริญ
กรุงเทพมหานคร ด้านทิศตะวันออกติดกับวัดนางชีโชติการาม ทิศใต้ติดกับคลองบางหว้า และด้านทิศตะวันตกติดกับโรงเรียนวัดนาคปรก
วัดนาคปรกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2291 สมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ (ก่อนเสียกรุงศรีอยุธยา 19 ปี) เป็นช่วงสมัยอยุธยาตอนปลาย เป็นวัดที่ชุมชนร่วมกันสร้าง เดิมชื่อ วัดปก เนื่องจากตั้งอยู่กลางสวนเหมือนป่าปกคลุมหรือปกไว้
ต่อมาวัดเสื่อมโทรมลง จนในสมัยร.3 เจ้าสัวพุก แซ่ตัน (พระบริบูรณ์ธนากร) และภรรยาซึ่งเป็นคนไทย ได้บูรณะอุโบสถ ให้ช่างฝีมือจากเมืองจีน เขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังเป็นรูปเครื่องมงคลจีน และเครื่องไหว้ต่าง ๆ เป็นศิลปะจีนแบบมหายาน
และยังได้ขอพระราชทานพระพุทธรูปสุโขทัยที่ร.1 ทรงให้รวบรวมจากหัวเมืองต่าง ๆ มาเป็นพระประธาน โดยพระประธานองค์ประดิษฐานที่วิหารนั้นมีพญานาค 7 เศียรแผ่พังพาน เป็นรูปปูนปั้น องค์พระเป็นพระปางมารวิชัยสัมฤทธิ์ ชาวบ้านจึงได้เรียกกันว่า วัดนาคปรก ค่ะ
ต่อมา ในปีพ.ศ. 2506–2525 ในยุคพระครูศรีพัฒนคุณ เป็นเจ้าอาวาส มีการมุงหลังคาพระอุโบสถใหม่และปูพื้นหินอ่อน ต่อมาในสมัยพระครูวรกิตติโสภณ (เศรษฐกิจ) เป็นเจ้าอาวาส ราวปี พ.ศ. 2554 ได้ยกพื้นอุโบสถขึ้น 5 เมตร กลายเป็นโบสถ์ 2 ชั้น โดยได้รับความเห็นชอบจากกรมศิลปากร
การพระราชทานวิสุงคามสีมา เข้าใจว่าได้รับพระราชทานมาแต่เดิมประมาณ พ.ศ. 2291
และกรมศิลปากรได้ขึ้นทะเบียนวัดนาคปรกเป็นโบราณสถาน เมื่อ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ค่ะ
อันดับที่ 4 วัดศรีสุพรรณ จ.เชียงใหม่ 5 เที่ยวฮิต บุญรักษาพาเที่ยวประจำปี 2564

วัดศรีสุพรรณตั้งอยู่บนถ.วัวลาย ต.หายยา อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นในปีพ.ศ.2043 เป็นวัดเก่าแก่มีอายุกว่า 500 ปี ก่อสร้างในรัชสมัยของพระเจ้าเมืองแก้ว กษัตริย์เชียงใหม่ราชธานี และพระนางสิริยสวดี พระราชมารดามหาเทวีเจ้า ที่โปรดเกล้าฯ ให้มหาอำมาตย์เจ้าหมื่นหลวงจ่าคำ สร้างวัดชื่อว่า วัดศรีสุพรรณอาราม
ต่อมาเรียกสั้นๆ ว่า วัดศรีสุพรรณ นั่นเองค่ะ สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งภายในวัดแห่งนี้คือ พระอุโบสถเงิน(แห่งแรกของโลก) ที่ชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นมาด้วยความตั้งใจที่จะอนุรักษ์เครื่องเงินของชุมชนวัวลาย ซึ่งเป็นชุมชนที่ทำหัตถกรรมเครื่องเงินที่มีชื่อเสียงของ จ.เชียงใหม่ค่ะ
พระอุโบสถเงินนั้นจะเป็นทรงแบบล้านนา สร้างด้วยโลหะเงินและดีบุก จากฝีมือของช่างท้องถิ่นด้านเครื่องเงินโดยเฉพาะ
ทั้งภายในและนอกของอุโบสถจะตกแต่งด้วยหัตถกรรมเครื่องเงินมีลวดลายงดงามตระการตา
ภายในจะมีองค์พระประธาน ที่ชาวบ้านเรียกกันว่า พระเจ้าเจ็ดตื้อ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ทำจากเนื้อทองสัมฤทธิ์ ขนาดกว้าง 3 ศอก สูง 4 ศอกค่ะ นอกจากนี้ภายในบริเวณวัดศรีสุพรรณยังมีพระบรมธาตุ พิพิธภัณฑ์ภูมิปัญญาสล่าสิบหมู่อีกด้วยค่ะ
วัดศรีสุพรรณนั้นเถือเป็นวัดที่สวยงามมากๆของ จ.เชียงใหม่อีกวัดหนึ่งที่นอกจากความงดงามของอุโบสถเงินที่แปลกตาแล้วนั้น ยังเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่นหัตถกรรมเครื่องเงินของชาวบ้านในชุมชน และรวบรวมผลงานเครื่องเงินไว้จัดแสดงให้ชมด้วยค่ะ
ภายในพระอุโบสถเงินไม่อนุญาตให้สุภาพสตรีเข้านะคะ เนื่องจากใต้ฐานอุโบสถฝังสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมีค่า คาถาอาคมและเครื่องรางของขลังเก่าแก่กว่า 500 ปี ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสื่อมแก่สถานที่หรือตัวสุภาพสตรีเองตามจารีตล้านนา สุภาพสตรีสามารถชมความงามได้รอบตัวอุโบสถเท่านั้น
แต่ทางบุญรักษาเองก็ได้นำภาพภายในอุโบสถที่สวยงามมาฝากเพื่อน ๆ ที่เป็นสุภาพสตรีให้ได้ชื่นชมความงามกันค่ะ
อันดับที่ 5 วัดพระธาตุดอยพระฌาน จ.ลำปาง    5 เที่ยวฮิต บุญรักษาพาเที่ยวประจำปี 2564

วัดพระธาตุดอยพระฌาน เป็นวัดที่ตั้งอยู่บนยอดเขาอันเงียบสงบ ภูเขาที่เรียกว่าดอยพระฌาน สามารถมองเห็นทิวทัศน์และทัศนียภาพที่สวยงามของอ.แม่ทะได้ เห็นทิวเขาต้นไม้เขียวขจีรอบทิศ สำหรับช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว ในช่วงเช้าสามารถชมทะเลหมอกอันงดงามได้อีกด้วยค่ะ พระพรชัย อัคควังโส เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยพระฌาน ท่านเล่าว่า เมื่อหลายปีก่อน ก่อนที่ท่านจะเดินทางมา ณ สถานที่แห่งนี้ ท่านได้นิมิตว่ามีคนมาบอกให้ท่านไปจำพรรษาในที่ ๆ มีพระธาตุสีขาวที่จ.ลำปาง หลังจากนั้นท่านจึงได้เดินทางมาจากจ.นครราชสีมา มาที่จ.ลำปาง กระทั่งได้พบกับพระธาตุแห่งนี้ และในปี พ.ศ.2552 ท่านก็ได้เริ่มบูรณะพื้นที่โดยรอบกับสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากสิ่งปลูกสร้างเดิมนั้นถูกปล่อยให้รกร้างมานานหลายปี ท่านเจ้าอาวาสได้มุ่งมั่นพัฒนาวัดพระธาตุดอยพระฌานเรื่อยมา จนปัจจุบันที่แห่งนี้ได้กลายเป็นวัดที่งดงามตระการตาอีกสถานที่หนึ่ง จนแทบจะพลาดไม่ได้เลยที่จะมาเที่ยวชม หากมีโอกาสมาที่ จ.ลำปางค่ะ พิกัด ต. ป่าตัน อ. แม่ทะ จ. ลำปาง

+
manganelo