เทศกาลใหญ่ประจำปีอย่าง “เข้าพรรษา” ถือเป็นประเพณีบุญครั้งสำคัญ ที่ผู้หลักผู้ใหญ่จะออกไปทำบุญถวายสังฆทาน ถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบที่วัดค่ะ ซึ่งวันสำคัญดังกล่าวมีที่มาที่ไปดังนี้ค่ะ
หลายคนเคยสงสัยไหมค่ะว่า ทำไมพระสงฆ์ต้องจำพรรษาที่วัดทุกปีเลย?
เหตุที่พระสงฆ์ต้องเข้าพรรษานั้นสืบเนื่องจากสมัยพุทธกาล... พระพุทธเจ้าไม่ได้ทรงบัญญัติพระวินัยให้พระสงฆ์สาวกอยู่ประจำพรรษา เหล่าภิกษุสงฆ์จึงพากันออกเดินทางเผยแผ่พุทธศาสนาในที่ต่าง ๆ ในทุกฤดู ทั้งฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝนค่ะ
ต่อมาชาวบ้านได้พากันติเตียนว่า เหล่าสมณะไม่ยอมหยุดพักเดินทางแม้ในฤดูฝนเลย ซึ่งการที่พระสงฆ์เดินไปในที่ต่างๆ แม้ในฤดูฝนนั้น อาจไปเหยียบย่ำข้าวกล้าของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย หรืออาจไปเหยียบย่ำโดนสัตว์เล็กสัตว์น้อยที่ออกหากินจนถึงแก่ความตายได้
เมื่อพระพุทธเจ้าทราบเรื่องจึงได้วางระเบียบขึ้น ให้พระสงฆ์ต้องประจำอยู่ที่วัดเป็นเวลา 3 เดือน พระสงฆ์ที่เข้าจำพรรษาแล้วจะไปค้างแรมที่อื่นไม่ได้ แต่หากเดินทางออกไปแล้วแต่ไม่สามารถกลับมาในเวลาที่กำหนด คือก่อนรุ่งสว่างได้ ก็จะถือว่าพระรูปนั้น "ขาดพรรษา" นั่นเองค่ะ
แต่หากมีกรณีจำเป็นบางอย่าง พระภิกษุผู้จำพรรษาสามารถไปค้างที่อื่นได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษา แต่ก็จะต้องกลับมาภายในระยะเวลาไม่เกิน 7 วัน ก็คือ
1.ต้องไปรักษาพยาบาลภิกษุ หรือบิดามารดาที่เจ็บป่วย
2.การไประงับภิกษุสามเณรที่อยากจะสึกมิให้สึกได้
3.การไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น การไปหาอุปกรณ์มาซ่อมกุฏิที่ชำรุด
4.หากทายกนิมนต์ไปทำบุญ ก็ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขาได้
รู้อย่างนี้แล้วก็ทำให้เราเข้าใจได้มากขึ้นนะคะว่าการที่พระสงฆ์ต้องมีวันเข้าพรรษา แล้วต้องจำพรรษา 3 เดือนนั้นมีสาเหตุจากอะไรกันแน่ กระทั่งแนวปฏิบัติเหล่านั้นได้ถูกส่งต่อผ่านกาลเวลา จนเดินทางมาถึงปัจจุบันนี้นั่นเองค่ะ
บุญรักษาค่ะ_/\_